การทำงาน ของ ชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์

ชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ประกอบอาชีพเป็นทนายความ เริ่มทำงานประจำที่สำนักงานบำรุงสุวิชา อภิศักดิ์ ต่อมาจึงได้เข้าร่วมงานทางการเมืองร่วมกับพรรคความหวังใหม่ พรรคกิจสังคม และลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตที่ 3 สังกัดพรรคถิ่นไทย[1] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง จากนั้น ได้ย้ายมาร่วมงานการเมืองกับชูวิทย์ และเป็นเลขาธิการพรรคซึ่งชูวิทย์ก่อตั้ง ได้แก่ พรรคต้นตระกูลไทย พรรคสู้เพื่อไทย

ในระหว่างที่ชูวิทย์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของชูวิทย์ จากนั้น ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 11 สังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งอีก ก็ย้ายกลับมาทำงานกับชูวิทย์ ในการจัดตั้งพรรคการเมือง ชื่อ พรรครักประเทศไทย ซึ่งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรครักประเทศไทย ในลำดับที่ 2[2] และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยแรกในการเลือกตั้งครั้งนี้

ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรครักประเทศไทย แต่เกิดข้อขัดแย้งกับชูวิทย์ในเรื่องการลาออกจากสมาชิกพรรค โดยชูวิทย์ไม่พอใจที่ชัยวัฒน์ลงมติไว้วางใจพลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก และความสนิทสนมกับจตุพร พรหมพันธ์[3] ชูวิทย์ได้แถลงข่าวพร้อมทั้งนำวิดีโอการสนทนากับชัยวัฒน์ โดยมีใจความว่าชัยวัฒน์ มีส่วนได้ผลประโยชน์จากการสร้างถนนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช[4] วันที่ 31 มกราคม 2556 กกต. มีมติเห็นชอบให้เสนอเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ของชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ตามที่คณะกรรมการไต่สวนของกกต.เสนอ ซึ่งความเห็นของคณะกรรมการไต่สวนเห็นว่า การที่ชัยวัฒน์ลงลายมือชื่อในหนังสือลาออกจากเป็นสมาชิกพรรครักประเทศไทยจริง ตามกฎหมายแล้ว ถือว่าเมื่อหนังสือลาออกของชัยวัฒน์ ยื่นถึงนายทะเบียนสมาชิกพรรค การลาออกนั้นเป็นอันสมบูรณ์ จึงส่งผลให้สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (7)

ใกล้เคียง

ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ชัยวัฒน์ บุราณ ชัยวัฒน์ คุประตกุล ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ชัยวัฒน์ กุลศักดิ์วิมล ชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ชัยวัฒน์ ฮิลเดอบรานด์